"สภากาชาดไทย" โต้กระแสดราม่า "ราคาซื้อขายอวัยวะ" ยืนยันผิดกฎหมายค้ามนุษย์
"สภากาชาดไทย" โต้กระแสดราม่า ปมภาพเอกสาร "ราคาซื้อขายอวัยวะ"
พร้อมยืนยันในประเทศไทยไม่มีการซื้อขายอวัยวะ เนื่องจากผิดกฎหมายค้ามนุษย์
วันที่ 25 เม.ย. 2568 รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ
สภากาชาดไทย แถลงข่าวกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลราคาการซื้อขายอวัยวะ
เช่น ปอด 1 ข้าง ราคา 9.2 ล้านบาท,
ไต 1 ข้าง ราคา 4.7 ล้านบาท, เลือดลิตรละ 2.1 หมื่นบาท เป็นต้น
จนชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมตั้งคำถามว่าตลาดมืดขายอวัยวะจริงหรือไม่
รศ.นพ.สุภนิติ์ ยืนยันว่า ตลาดมืดขายอวัยวะดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องจริง
โดยอวัยวะที่มีการใช้ปลูกถ่ายในประเทศไทยนั้น
จะมาจากการบริจาคจากผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
ซึ่งมาจาก 2 กรณี คือ 1.รับบริจาคมาจากญาติที่ยังมีชีวิต
2.การแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะหลังจากผู้บริจาคเสียชีวิต
ผ่านศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ที่ยังรอคอยการรับบริจาคอวัยวะเพื่อปลูกถ่ายประมาณ 7,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นไต
เพราะเป็นอวัยวะที่สามารถรอได้ด้วยการฟอกเลือด ส่วนอวัยวะอื่น เช่น ตับ, หัวใจ
อวัยวะอื่นที่ไม่สามารถใช้เครื่องพยุงร่างกายได้ ก็จะรอไม่นานแล้วเสียชีวิตไป
สำหรับการรับบริจาคอวัยวะนั้น ไม่มีการให้มูลค่าหรือค่าตอบแทนอวัยวะ แม้จะเป็นญาติของผู้ป่วย
หรือเป็นคนอื่นที่มีความต้องการบริจาค เนื่องจากการให้ค่าตอบแทนจะเป็นข้อเสีย
คือคนไม่บริจาคอวัยวะ จะกลายเป็นว่าคนมีเงินก็ซื้อได้ คนก็ยิ่งหันหลังให้กับการบริจาค
ขณะที่ตนเข้าใจผู้ที่ต้องรอรับบริจาคอวัยวะ แต่การซื้อขายอวัยวะนั้นเป็นเรื่องที่สังคมไทย
และสังคมโลกยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์อนามัยโลก, สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะนานาชาติ,
องค์การวิชาชีพแพทย์ ต่างเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะคนที่ขายอวัยวะเอง
ก็อาจถูกหลอกมาอีกทีว่าตัดอวัยวะออกไปแล้ว ก็ยังปลอดภัย แต่ปรากฏว่าให้ไปแล้วตัวเองกลับต้องป่วย
ไม่ได้รับการดูแลหลังจากนั้น เพราะคนที่ให้อวัยวะกับผู้อื่นไป
จำเป็นต้องได้รับการดูแลสุขภาพต่อเนื่อง หรือแม้ว่าอาจไม่ได้รับค่าตอบแทนตามตกลงจริงๆ